การประกวดเพลงยูโรวิชัน ประเภท ประกวดเพลง สร้างโดย Marcel Bezençon ผู้ประพันธ์ดนตรีแก่นเรื่อง มาร์ก-อ็องตวน ชาร์ป็องตีเย ดนตรีแก่นเรื่องเปิด เต เดอุม : Prelude (Marche en rondeau) ดนตรีแก่นเรื่องปิด เต เดอุม: Prelude (Marche en rondeau) ภาษาต้นฉบับ อังกฤษและฝรั่งเศส จำนวนตอน การประกวด 65 ครั้ง การถ่ายทอดสด 94 ครั้ง การผลิต ความยาวตอน ~2 ชั่วโมง (รอบคัดเลือก) ~4 ชั่วโมง (รอบชิงชนะเลิศ) บริษัทผู้ผลิต สหภาพการแพร่สัญญาณวิทยุและโทรทัศน์แห่งยุโรป ออกอากาศ ออกอากาศ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1956 (1956-05-24 ) – ปัจจุบัน
การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งยุโรป หรือเรียกโดยทั่วไปว่า การประกวดเพลงยูโรวิชัน (อังกฤษ : Eurovision Song Contest ; ฝรั่งเศส : Concours Eurovision de la chanson ) คือการประกวดเพลงประจำปี ในกลุ่มประเทศที่เป็นสมาชิก สหภาพการแพร่สัญญาณวิทยุและโทรทัศน์แห่งยุโรป (European Broadcasting Union: EBU)
รูปแบบการประกวด
ประเทศที่ร่วมเข้าแข่งขันจะเลือกเพลง และนักร้อง ประเทศละหนึ่งชุดโดยใช้ผู้แสดงไม่เกินหกคน ที่จะแสดงสดทางโทรทัศน์ เพลงที่เข้าประกวดต้องเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ทั้งเนื้อร้องและทำนอง โดยประเภทของเพลงในการแข่งขันมีความหลากหลาย
ในการตัดสินผู้ชนะ ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา คะแนนจะถูกแบ่งเป็นสองส่วน คือจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของแต่ละประเทศ และจากผู้ชมซึ่งเป็นประชากรในประเทศสมาชิก EBU ซึ่งอาจรวมไปถึงประเทศอิสราเอล โมร็อกโก และออสเตรเลีย แต่ไม่รวมลิกเตนสไตน์ โดยแต่ละประเทศจะใช้คะแนนจากคณะกรรมการ (Jury Vote) และจากการโหวตของผู้ชมทางโทรศัพท์/การส่งเอสเอ็มเอส /การโหวตผ่านแอพ (Televote) อย่างละครึ่งหนึ่ง ซึ่งแต่ละประเทศไม่มีสิทธิตัดสินหรือโหวตให้กับประเทศของตัวเอง ทุกประเทศมีโอกาสได้คะแนนเท่ากันโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเหตุนั้นประเทศรัสเซีย จึงมีโอกาสได้คะแนนเท่ากับโมนาโก
ประเทศที่ได้คะแนนมากที่สุดสองอันดับแรกจะได้ 12 และ 10 คะแนน ส่วนอันดับสามถึงสิบจะได้คะแนนตั้งแต่ 8 จนถึง 1 คะแนน โดยในการประกาศผลช่วงท้ายของการถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศ จะแบ่งเป็นสองช่วง ได้แก่
คะแนนจากคณะกรรมการ โดยประเทศที่ได้ 1-8 และ 10 คะแนน ตัวเลขจะปรากฏบนกระดานคะแนนดิจิทัล ส่วนประเทศที่ได้ 12 คะแนน (อังกฤษ : Twelve Points , ฝรั่งเศส : Douze Points ) ตัวแทนของแต่ละประเทศจะเป็นผู้ประกาศ
คะแนนจากการโหวตของผู้ชม ทางโทรศัพท์ ข้อความสั้น และ แอพ พิธีกรจะเป็นผู้ประกาศเอง โดยในปี 2016-2018 จะประกาศเลขคะแนน ตามด้วยชื่อประเทศที่ได้คะแนนจากการโหวต เรียงจากต่ำสุดไปสูงสุด และตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป จะประกาศคะแนนจากผู้ชมของแต่ละประเทศ เรียงตามลำดับประเทศที่ได้คะแนนคณะกรรมการ จากต่ำสุดไปหาสูงสุด
ประเทศที่ได้คะแนนจากทั้งสองส่วนข้างต้นรวมกันมากที่สุด จะเป็นผู้ชนะของการประกวดปีนั้น ๆ หากเกิดกรณีที่มีประเทศที่มีคะแนนเท่ากัน จะตัดสินที่คะแนนรวมจากการโหวตของผู้ชม หากยังเท่ากันจะนับจำนวนคะแนนจากการโหวตของผู้ชมที่ได้รับ เรียงจากคะแนนสูงสุดที่ได้รับไปยังคะแนนต่ำสุด หากคะแนนเท่ากันอีก ประเทศที่มีลำดับการแสดงก่อนจะเป็นผู้ชนะ
ประเทศของผู้ชนะจะได้รับถ้วยหรือเหรียญรางวัล และเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดปีต่อไป โดยประเทศเจ้าภาพกับประเทศที่ออกค่าใช้จ่ายให้กับทาง EBU มากที่สุด ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และ อิตาลี (ซึ่งเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า กลุ่มประเทศ "บิ๊กไฟว์") จะสามารถส่งทีมเข้าประกวดในรอบชิงชนะเลิศได้โดยอัตโนมัติ (ในปี 2015 ออสเตรเลีย ได้รับสิทธิ์เข้ารอบชิงชนะเลิศโดยอัตโนมัติเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติมอีกหนึ่งประเทศ ในโอกาสครบรอบ 60 ปีการประกวด) ส่วนประเทศที่เหลือทั้งหมดต้องเข้าประกวดรอบคัดเลือก ซึ่งมีสองวันและคัดประเทศเข้ารอบชิงชนะเลิศวันละสิบประเทศ ทำให้รอบชิงชนะเลิศมีประเทศเข้าประกวดทั้งหมด 26 ประเทศ ส่วนในปีที่ประเทศในกลุ่มบิ๊กไฟว์เป็นเจ้าภาพ จะมีชาติที่เข้าร่วมประกวดรอบชิงชนะเลิศรวม 25 ประเทศ
สำหรับในการประกวดปี 2023 ยูเครน ประเทศผู้ชนะการประกวดปีก่อนหน้า ไม่สามารถจัดงานได้เนื่องจากยังอยู่ในภาวะสงคราม สหราชอาณาจักรที่ได้ลำดับที่สองในการประกวดคราวเดียวกันนั้น จึงรับหน้าที่จัดประกวดแทน แต่ยูเครนก็ยังได้รับสิทธิ์เข้ารอบชิงชนะเลิศโดยอัตโนมัติตามธรรมเนียมเช่นเดิม ดังนั้นจึงมีชาติที่เข้าร่วมการประกวดในรอบชิงชนะเลิศปีดังกล่าวรวม 26 ประเทศ แม้จะมีหนึ่งในกลุ่มประเทศบิ๊กไฟว์เป็นเจ้าภาพก็ตาม
การออกอากาศ
ผู้ชนะเลิศจากปี 2006 จากฟินแลนด์ วงลอร์ดิ
การประกวดเริ่มมีการออกอากาศทุกปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ถือเป็นรายการโทรทัศน์ ที่มีต่อเนื่องยาวที่สุดในโลก และมีผู้ชมที่ไม่ใช่การแข่งขันกีฬามากที่สุด โดยมีผู้ชมระหว่าง 100 ล้าน - 600 ล้านคน ออกอากาศทั่วทั้งยุโรป และยังแพร่ภาพใน ออสเตรเลีย แคนาดา อียิปต์ ฮ่องกง อินเดีย จอร์แดน เกาหลี นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และ สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้ร่วมแข่งขันก็ตาม
ตั้งแต่ปี 2000 การแข่งขันได้มีการแพร่ภาพทางอินเทอร์เน็ต และในปี 2015 สหภาพฯ ได้เปิดช่องทางการถ่ายทอดสดผ่านยูทูบ
ผู้มีชื่อเสียงจากการประกวด
ศิลปินดังที่ชนะเลิศจากรายการนี้ เช่น เซลีน ดิออน (สวิสเซอร์แลนด์ ) ปี 1988, แอ็บบ้า (สวีเดน ) ปี 1974, ดานา อินเตอร์เนชันแนล (อิสราเอล ) ปี 1998, ลอร์ดิ (ฟินแลนด์ ) ปี 2006, มาริยา เชริโฟวิช (Marija Šerifović) จากประเทศเซอร์เบีย ปี 2007, ดิมา บิลาน (Dima Bilan) จากรัสเซีย ปี 2008 และ อเล็กซานเดอร์ รืยบัค (Alexander Rybak) จากนอร์เวย์ ปี 2009 และเลนา เมเยอร์-ลันดรุท (Lena Meyer-Landrut) จากเยอรมนี ปี 2010
เจ้าภาพและผู้ชนะในแต่ละปี
ประเทศที่เคยเข้าร่วมแข่งขัน
คำขวัญ
1.^ นับแต่การแข่งขันในปี 2024 เป็นต้นมา รายการจะใช้คำขวัญนี้เป็นคำขวัญประจำรายการ
จำนวนครั้งที่แต่ละประเทศชนะการประกวด
ตารางด้านล่างแสดงจำนวนครั้งที่แต่ละประเทศชนะการประกวด เรียงตามจำนวนครั้งและปีที่ชนะล่าสุด ตามลำดับ โดยในการประกวดแต่ละปีจะมีผู้ชนะเพียงประเทศเดียว ยกเว้นปี 1969 ซึ่งแสดงเป็น ตัวเอียง ในตาราง ที่มีผู้ชนะ 4 ประเทศ
แผนที่แสดงจำนวนครั้งที่ชนะในแต่ละประเทศ
จำนวนครั้งที่ชนะ
ประเทศ
ปีที่ชนะ
7
ไอร์แลนด์
1970, 1980, 1987, 1992, 1993, 1994, 1996
สวีเดน
1974, 1984, 1991, 1999, 2012, 2015, 2023
5
เนเธอร์แลนด์
1957, 1959, 1969 , 1975, 2019
ฝรั่งเศส
1958, 1960, 1962, 1969 , 1977
ลักเซมเบิร์ก
1961, 1965, 1972, 1973, 1983
สหราชอาณาจักร
1967, 1969 , 1976, 1981, 1997
4
อิสราเอล
1978, 1979, 1998, 2018
3
เดนมาร์ก
1963, 2000, 2013
อิตาลี
1964, 1990, 2021
นอร์เวย์
1985, 1995, 2009
ยูเครน
2004, 2016, 2022
2
สวิตเซอร์แลนด์
1956, 1988
ออสเตรีย
1966, 2014
สเปน
1968, 1969
เยอรมนี
1982, 2010
1
โมนาโก
1971
เบลเยียม
1986
ยูโกสลาเวีย
1989
เอสโตเนีย
2001
ลัตเวีย
2002
ตุรกี
2003
กรีซ
2005
ฟินแลนด์
2006
เซอร์เบีย
2007
รัสเซีย
2008
อาเซอร์ไบจาน
2011
โปรตุเกส
2017
รายชื่อผู้ชนะ
1.^ ยกเลิกการจัดการแข่งขันเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น